เมื่อมีการว่าจ้างสถาปนิกผู้ออกแบบอาคารก็คล้ายกับการจ้างงานในวิชาชีพอื่นๆ ก็จะมีเรื่องค่าบริการวิชาชีพเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ทนายความ หรือแพทย์เป็นต้น ซึ่งค่าจ้างตรงนี้เป็นคนละส่วนกับค่าก่อสร้าง หรือค่าตกแต่งภายใน โดยแต่ละบริษัทจะมีวิธีการคิดค่าบริการที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 3 รูปแบบหลักๆคือ
1.คิดตามพื้นที่ออกแบบ
การคิดค่าออกแบบตามพื้นที่ออกแบบ เป็นการคิดค่าบริการโดยประเมินจากพื้นที่ที่ต้องการออกแบบ โดยสถาปนิกจะสอบถามข้อมูลความต้องการจากท่าน แล้ววิเคราะห์และประเมินว่าอาคารดังกล่าวมีพื้นที่กี่ ตรม. โดยทั่วไปจะถูกใช้ในการออกแบบตกแต่งภายใน แต่ก็จะมีหลายบริษัทที่นำมาใช้คำนวณค่าบริการออกแบบสำหรับสถาปัตยกรรมตัวอาคารด้วย ซึ่งราคาค่าออกแบบต่อ ตรม. ของแต่ละบริษัทจะมีความแตกต่างกัน และหากเป็นค่าออกแบบภายในจะมีราคาสูงกว่าค่าออกแบบสถาปัตยกรรมตัวอาคารภายนอก และทั้งนี้ค่าออกแบบยังขึ้นกับขอบเขตงาน ขนาดพื้นที่ออกแบบ ความยากง่ายของการออกแบบ ความชำนาญของสถาปนิก ตัวอย่างเช่น
ตัวอย่างที่ 1 ต้องการออกแบบตกแต่งภายในอาคาร 300 ตรม.
ถ้าค่าบริการตรม.ละ1,000 จะเท่ากับค่าออกแบบ 300×1,000
เท่ากับ 300,000บาท
ตัวอย่างที่ 2 ต้องการออกแบบสถาปัตยกรรมบ้านพักอาศัย 300 ตรม.
ถ้าค่าบริการตรม.ละ 500 จะเท่ากับค่าออกแบบ 300×500
เท่ากับ 150,000บาท
2.คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าก่อสร้าง
การคิดเป็นลักษณะเปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าค่าก่อสร้าง คือการที่สถาปนิกจะวิเคราะห์ราคาค่าก่อสร้างจากประสบการณ์โดยดูจากรูปแบบอาคาร ขนาดของอาคาร วัสดุที่น่าจะเลือกใช้ เป็นต้น จากนั้นนำราคาที่ได้มาคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามที่บริษัทนั้นกำหนด ซึ่งแต่ละบริษัทมีอัตราค่าบริการที่ตกต่างกัน โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ได้มีมาตรฐานในคู่มือสถาปนิก เพื่อเป็นแนวทางในการคำนวณค่าแบบเป็นเปอร์เซ็นต์ ดังนี้
ประเภทที่ 1 = ตกแต่ง ภายใน ครุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์
ประเภทที่ 2 = พิพิธภัณฑ์ วัด อนุสาวรีย์ อาคารอนุสรณ์ที่วิจิตรสวยงาม
ประเภทที่ 3 = บ้าน (ไม่รวมตกแต่งภายใน)
ประเภทที่ 4 = โรงพยาบาล รัฐสภา โรงแรม ธนาคาร คอนโดมิเนียม วิทยาลัย
ประเภทที่ 5 = สำนักงาน สรรพสินค้า หอพัก โรงเรียน โรงอุตสาหกรรม
ประเภทที่ 6 = โกดัง อาคารจอดรถ ห้องแถว ตลาด
ตัวอย่างที่ 1 ต้องการออกแบบบ้านมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท ไม่รวมตกแต่งภายใน วิธีการคำนวณ
ดูจากตารางในช่วงบ้านพักอาศัย จะมีวิธีคำนวณดังนี้
7.5% X 5,000,000
ค่าออกแบบ คือ 375,000 บาท
ตัวย่างที่ 2 ต้องการออกแบบบ้านมูลค่า 20 ล้านบาท บาท ไม่รวมตกแต่งภายใน วิธีการคำนวณ
ดูจากตารางในช่วงบ้านพักอาศัย จะมีวิธีคำนวณดังนี้
7.5% X 10,000,000 = 750,000
6% X 10,000,000 = 600,000
ค่าออกแบบ คือ 1,350,000 บาท
กรณีงานก่อสร้างต่อเติม
ได้แก่ การออกแบบงานก่อสร้างต่อเติมอาคารเดิมที่มีอยู่แล้ว และจำเป็นต้องแก้ไขระบบโครงสร้างหรือการใช้สอยของอาคารเดิมบางส่วน ให้คิดค่าแบบหรือค่าบริการวิชาชีพเท่ากับ 1.2 เท่าของมูลค่าตามวิธีคิดข้างต้น (คิดค่าแบบในอัตราปกติแล้วคูณด้วย 1.2)
กรณีงานก่อสร้างดัดแปลง
ได้แก่การดัดแปลงแก้ไขประโยชน์ใช้สอยภายในอาคารเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยจะแก้ไขเพิ่มเติมระบบโครงสร้างหรือไม่ก็ตาม ให้คิดค่าแบบเท่ากับ 1.4 เท่าของมูลค่าตามวิธีคิดข้างต้น
กรณีงานก่อสร้างที่แบบซ้ำกัน
ได้แก่การก่อสร้างในบริเวณเดียวกันโดยไม่ต้องเขียนแบบใหม่ อาจเป็นบ้านจัดสรร กลุ่มอาคารโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มอาคารคอนโดมิเนียม หรืออาคารที่ทำซ้ำๆ กันให้คิดค่าแบบดังนี้ครับ
1) หลังที่ 1 คิดค่าแบบ 100% ของค่าแบบตามวิธีคิดข้างต้น
2) หลังที่ 2 คิดค่าแบบ 50% ของค่าแบบตามวิธีคิดข้างต้น
3) หลังที่ 3 ถึงหลังที่ 5 คิดค่าแบบ 25% ของค่าแบบตามวิธีคิดข้างต้น
4) หลังที่ 6 ถึงหลังที่ 10 คิดค่าแบบ 20% ของค่าแบบตามวิธีคิดข้างต้น
5) หลังที่ 11 ขึ้นไป คิดค่าแบบ 15% ของค่าแบบตามวิธีคิดข้างต้น
แต่ราคาเหล่านี้เป็นเพียงแนวทาง หรือข้อแนะนำจากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ได้รวบรวมขึ้นไว้เป็นมาตรฐานเท่านั้น แต่ไม่ใช่ข้อกำหนดที่มีผลทางกฎหมาย ในความเป็นจริงแต่ละบริษัทที่ออกแบบสามารถกำหนดราคาได้ตามมาตรฐานของแต่ละที่ ซึ่งมีทั้งสูงกว่า และต่ำกว่ามาตรฐานนี้
3.การคิดราคาแบบเหมา
การคิดราคาแบบเหมาจะขึ้นอยู่กับการกำหนดของแต่ละบริษัทออกแบบ หรือตามโปรโมชั่นในช่วงเวลานั้นๆ โดยปกติหากพื้นที่ออกแบบน้อยกว่าที่กำหนดบริษัทที่อาจจะคิดเป็นราคาขั้นต่ำหรือราคาเหมาก็เป็นได้ นอกจากนั้นหลายๆท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า ฟรีค่าแบบ ซึ่งส่วนมากจะเป็นบริษัทที่รับสร้างด้วย ซึ่งในความเป็นจริงค่าใช้จ่ายตรงนี้รวมอยู่ในค่าบริหารจัดการแล้ว
1 Comment
[…] https://designical.co.th […]