1.ประสบการณ์ และความชำนาญ
          คนเรานั้นมีความชำนาญ และถนัดไม่เหมือนกัน เปรียบเทียบเหมือนจะให้ลิงว่ายน้ำแข่งกับปลาก็ลงลำบาก หากท่านไม่มีความรู้ในด้านนี้ การจะออกแบบให้สวยถูกใจ ใช้สอยได้ดี และมีรายละเอียดที่ครบถ้วนนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ใช่จะทำเองไม่ได้ (ในอาคารไม่ใหญ่) หากแต่ต้องใช้เวลาที่นาน รวมไปจนถึงหากผิดพลาดยอมเกิดความเสียหายมูลค่ามาก บางครั้งผิดพลาดแล้วต้องมาปวดหัวกับการแก้ปัญหาไม่จบสิ้น

2.สามารถทำตามลำดับ ขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง
          สถาปนิกส่วนมากมักจะเข้าใจความเหมาะสม ไม่ว่าท่านจะสร้างอาคารสำหรับธุรกิจ หรืออาคารพักอาศัย หากท่านปรึกษาสถาปนิกตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ ท่านจะสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น เนื่องจากสถาปนิกต้องเข้าใจลำดับการทำงาน ทราบถึงขั้นตอนการทำงาน นอกจากนั้นยังช่วยท่านเลือกแนวทางในการออกแบบ หรือจัดการให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด (ความคุ้มค่ามิใช่ถูกที่สุด แต่เหมาะสมที่สุดกับเงินที่จ่ายไป)

3.เข้าใจจุดประสงค์ และสามารถตอบสนองความต้องการของท่านได้
          เนื่องจากสถาปนิกทราบภาพรวม และเข้าใจองค์รวมอาคาร จึงสามารถทำความต้องการของท่านให้ออกมาเป็นรูปธรรมได้ นอกเหนือไปจากนั้นยังรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคตได้

4.ประสานงานกับวิศวกร
          อาคารนอกจากความสวยงาม และฟังก์ชั่นการใช้สอยแล้ว ยังต้องมีเรื่องโครงสร้าง งานระบบอาคาร การตกแต่งภายใน และภูมิสถาปัตยกรรมอีก ซึ่งโดยปกติสถาปนิกจะเป็นผู้ประสานงานการออกแบบ เพราะเป็นผู้ออกแบบอาคารเข้าใจความซับซ้อนของอาคารทั้งหมด

5.เข้าใจกฎหมายอาคาร
            การออกแบบ และก่อสร้างจะต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายอาคารที่มีมากมายหลายข้อ หลายหมวดหมู่ หากเข้าใจข้อกำหนดนี้ตั้งแต่แรก จะทำให้วางแผน และออกแบบได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาให้ยุ่งยากภายหลัง

6.การขออนุญาตต้องมีการเซ็นรับรองตามกฎหมาย
          นอกจากสถาปนิกจะต้องออกแบบ เขียนแบบ ผสานงานกับวิศวกรให้ท่านแล้ว การขออนุญาตก่อสร้างอาคารตามกฎหมาย ต้องมีการรับรองจากสถาปนิก และวิศวกรเสมอ

7.ประเมินราคาค่าก่อสร้างได้ล่วงหน้า
          ตั้งแต่ในขั้นตอนการออกแบบ สถาปนิกทราบรายละเอียด รวมไปถึงวัสดุต่างๆที่ใช้ จึงสามารถทำการประเมินราคาค่าก่อสร้างได้ล่วงหน้า ทำให้สามารถปรับอาคารให้อยู่ในงบประมาณไม่บานปลายในภายหลัง

8.บริหารการก่อสร้าง
          นอกจากการออกแบบแล้ว หากท่านว่าจ้างสถาปนิกดูแลงานก่อสร้างด้วย สถาปนิกจะเป็นผู้เข้าใจอาคารหลังนี้ดีที่สุด ซึ่งจะทำงานร่วมกับวิศวกร เมื่อเกิดปัญหาสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที และยังเข้าใจการก่อสร้างอาคารสามารถทำให้เกิดความคุ้มค่าในการก่อสร้าง ไม่สิ้นเปลืองโดยมิใช้เหตุ

9.ให้คำปรึกษาการซ่อมบำรุง
          หลังจากก่อสร้างอาคารเสร็จ สถาปนิกจะสามารถให้คำปรึกษา และแนะนำวิธีการดูแลอาคาร หากมีปัญหาจากแบบก่อสร้าง หรือการก่อสร้าง สถาปนิกสามารถแนะนำวิธีการซ่อมแซมได้

          หากพิจารณาจากเหตุผลต่างๆจะพบว่า การจ่ายค่าบริการวิชาชีพแก่สถาปนิกที่ดูเหมือนจะแพง และเสียเปล่านั้น จริงๆแล้วมีความคุ้มค่ามากกว่า เช่น ท่านได้อาคารที่สวยงาม การใช้สอยถูกใจ ไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาต่างๆเอง ที่สำคัญยังไม่ต้องมาเสียเงินในเรื่องที่ไม่ควรเสีย ดังคำกล่าว เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย

Recommended Posts

No comment yet, add your voice below!


Add a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.